ยินดีต้อนรับ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
หาดป่าตอง
หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไป 15 กิโลเมตร นับว่าเป็นหาดที่ชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นหาดที่สิ่งอำนวยความสะดวก โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ตลอดจนกีฬาทางน้ำอื่นๆอีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุดhttp://www.andamanonline.com/th/phuket/Phuket_Kathu.php
หาดกะหลิม
หาดกะหลิม เป็นหาดเล็กมีโขดหินและแนวปะการัง อย่ห่างถัดไปจากหาดป่าตอง มีโรงแรมและที่พัก รวมถึงร้านอาหารไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว http://www.andamanonline.com/th/phuket/Phuket_Kathu.php
หาดกมลา
หาดกมลา อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 26 กิโลเมตรจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร เลี้ยวซ้ายผ่านหาดสุรินทร์ และแหลมสิงห์ ก็จะถึงหาดกมลา เป็นแนวหาดทรายยาวประมาณ 2 กิโลเมตร นับเป็นหาดที่สงบเงียบ มีสถานที่พักไม่มากนัก นอกจากนี้หาดกมลายังเป็นสถานที่ตั้งของ ภูเก็ตแฟนตาซีอีกด้วย http://www.andamanonline.com/th/phuket/Phuket_Kathu.php
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์
ตั้งอยู่บนดอยบวกห้า ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง ใช้เส้นทางเดียวกันกับพระธาตุดอยสุเทพ พระตำหนักฯอยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร พระตำหนักภูพิงค์ฯ เป็นพระตำหนักประทับในวโรกาสที่เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะที่เสด็จฯเยือนประเทศไทย ซึ่งแต่เดิมจะประทับรับรองแต่ในพระนครหลวงเท่านั้น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2504 ในครั้งแรกได้ก่อสร้างเฉพาะองค์พระตำหนักที่ประทับและเรือนรับรองเท่านั้น ส่วนอาคารอื่นๆได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมต่อมาในภายหลัง ภายในพระตำหนักฯ มีสถานที่น่าชม ดังนี้ เรือนปีกไม้ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เรือนรับรอง พลับพลาผาหมอนและสวนเฟิร์น อ่างเก็บน้ำ พระตำหนักต่างๆ และหอพระ โดยระหว่างเส้นทางเยี่ยมชมจะผ่านสวนกุหลาบเป็นระยะ
โดยปกติแล้วจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวัน แต่ทั้งนี้จะงดการเข้าชมพระตำหนักฯ ระหว่างเสด็จแปรพระราชฐาน (ประมาณเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม) นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โทร. 053-223065 หรือ website: www.bhubingpalace.org จำหน่ายบัตรทุกวัน เวลา 8.30-11.30 และ 13.00-15.30 น. ค่าเข้าชม คนไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท (กรุณาแต่งกายสุภาพ) และมีบริการรถไฟฟ้านำชม ค่าบริการ 300 บาท/คัน(ไม่เกิน 3 ท่าน www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
โดยปกติแล้วจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวัน แต่ทั้งนี้จะงดการเข้าชมพระตำหนักฯ ระหว่างเสด็จแปรพระราชฐาน (ประมาณเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม) นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามที่ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ โทร. 053-223065 หรือ website: www.bhubingpalace.org จำหน่ายบัตรทุกวัน เวลา 8.30-11.30 และ 13.00-15.30 น. ค่าเข้าชม คนไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท (กรุณาแต่งกายสุภาพ) และมีบริการรถไฟฟ้านำชม ค่าบริการ 300 บาท/คัน(ไม่เกิน 3 ท่าน www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
โป่งเดือดป่าแป๋
ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในอดีตน้ำพุแห่งนี้สูงถึง 5 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 1 เมตร รอบ ๆ บริเวณซึ่งเป็นป่าทึบจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน บริเวณโดยรอบสะอาด และจัดนิทรรศการได้น่าสนใจ
น้ำพุเกิดจากปริมาณน้ำใต้ดินที่ส่วนใหญ่ได้จากน้ำฝนที่ซับสู่ใต้ดิน หากดินมีความพรุนมาก ความพรุนของดินนี้เกิดจากต้นไม้ น้ำพุร้อนที่นี่คาดว่ามีการเกิดแบบน้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geyser type) ลักษณะของน้ำพุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวตลอดเวลา และคุณสมบัติของน้ำพุร้อนอย่างหนึ่งคือ ช่วยรักษาโรคปวดตามข้อ
การเดินทาง ใช้ถนนสายแม่มาลัย-ปาย ไปประมาณ 35 กิโลเมตร ประมาณกิโลเมตรที่ 42 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทางสีส้ม สายเชียงใหม่-ปาย ซึ่งจะวิ่งผ่านปากทางเข้า จากลานจอดรถจะต้องเดินทางไปประมาณ 500 เมตร
มีบริการบ้านพัก 8 หลังๆละ 3,000 บาท มีเต้นท์ให้เช่า และมีบริการอาบน้ำแร่ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ติดต่อ โทร. 0 5322 7954 หรือ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th
www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
น้ำพุเกิดจากปริมาณน้ำใต้ดินที่ส่วนใหญ่ได้จากน้ำฝนที่ซับสู่ใต้ดิน หากดินมีความพรุนมาก ความพรุนของดินนี้เกิดจากต้นไม้ น้ำพุร้อนที่นี่คาดว่ามีการเกิดแบบน้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geyser type) ลักษณะของน้ำพุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวตลอดเวลา และคุณสมบัติของน้ำพุร้อนอย่างหนึ่งคือ ช่วยรักษาโรคปวดตามข้อ
การเดินทาง ใช้ถนนสายแม่มาลัย-ปาย ไปประมาณ 35 กิโลเมตร ประมาณกิโลเมตรที่ 42 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทางสีส้ม สายเชียงใหม่-ปาย ซึ่งจะวิ่งผ่านปากทางเข้า จากลานจอดรถจะต้องเดินทางไปประมาณ 500 เมตร
มีบริการบ้านพัก 8 หลังๆละ 3,000 บาท มีเต้นท์ให้เช่า และมีบริการอาบน้ำแร่ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ติดต่อ โทร. 0 5322 7954 หรือ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 www.dnp.go.th
www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
การแสดงช้าง
เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำให้ช้างในลำห้วยชะล้างสิ่งสกปรกออก และเพื่อให้ช้างสนุกสนานเพลิดเพลินในการที่ได้ลงไปแช่ในน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ควาญจะนำช้างไปใส่เครื่องลากจูงไว้บนหลัง เพื่อลากซุงซึ่งอยู่ในป่ามาแสดงให้ชมด้วยวิธีการต่างๆ โดยจัดแสดงทุกวันในช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.40 - 10.30 น. นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมขี่ช้างและล่องแพตามความต้องการของนักท่องเที่ยว
สายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวง 107) มีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงช้างและขี่ช้าง ดังนี้
- ท่าแพแม่ตะมาน จากเชียงใหม่มาตามทางหลวง 107ประมาณ 43 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 7 กิโลเมตร โทร. 0 5329 7060
- ปางช้างแม่แตง เข้าทางเดียวกับท่าแพแม่ตะมานจากปากทางเข้ามา 9 กิโลเมตร ตรงข้ามวัดแม่ตะมาน โทร. 0 5384 4818
- ศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว ประมาณกิโลเมตรที่ 56 หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ทางขวามือ เป็นศูนย์ที่รับฝึกลูกช้างเพื่อใช้งานชักลากไม้จริง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วยโดยคิดค่าข้าชมผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชมได้วันละ 2 รอบ คือ 09.00 น. และ 10.00 น. ทุกวัน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 5329 8553, 0 5386 2037www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
สายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวง 107) มีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงช้างและขี่ช้าง ดังนี้
- ท่าแพแม่ตะมาน จากเชียงใหม่มาตามทางหลวง 107ประมาณ 43 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 7 กิโลเมตร โทร. 0 5329 7060
- ปางช้างแม่แตง เข้าทางเดียวกับท่าแพแม่ตะมานจากปากทางเข้ามา 9 กิโลเมตร ตรงข้ามวัดแม่ตะมาน โทร. 0 5384 4818
- ศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว ประมาณกิโลเมตรที่ 56 หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ทางขวามือ เป็นศูนย์ที่รับฝึกลูกช้างเพื่อใช้งานชักลากไม้จริง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วยโดยคิดค่าข้าชมผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชมได้วันละ 2 รอบ คือ 09.00 น. และ 10.00 น. ทุกวัน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 5329 8553, 0 5386 2037www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
เดินทางตามถนนห้วยแก้ว ผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง ระยะทางจากเชิงดอยถึงวัดประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง วัดพระธาตุดอยสุเทพนี้เป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาที่จังหวัดนี้จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการแล้ว ถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่ มีงานประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันเพ็ญวิสาขบูชาทุกปี
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดนาคไป 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพได้ ระหว่างเวลา 05.30-19.30 น. นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางมาที่วัดโดยรถสองแถวประจำทาง จากบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านถนนห้วยแก้ว ซึ่งบริการระหว่างเวลาประมาณ 05.00-17.00 น www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดนาคไป 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพได้ ระหว่างเวลา 05.30-19.30 น. นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถเดินทางมาที่วัดโดยรถสองแถวประจำทาง จากบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้านถนนห้วยแก้ว ซึ่งบริการระหว่างเวลาประมาณ 05.00-17.00 น www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=285
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)